เรตินอยด์ เรตินอล คืออะไร ช่วยเรื่องผิวยังไง

Retinoid (เรตินอยด์) คือ กลุ่มของกรดวิตามินเอ และอนุพันธ์ของวิตามินเอทั้งหมด มีหลากหลายตัว สำหรับวิตามินเอชนิดทา แบ่งหลักๆ เป็น 2 กลุ่ม คือ

1. กลุ่มยา ได้แก่ Tretinoin ซึ่งเป็น Retinoic acid เป็นตัวออกฤทธิ์หลัก มีงานวิจัยมากที่สุด ช่วยได้ทั้ง สิว ฝ้า ผลัดเซลล์ผิว รอยดำ ช่วยปรับโครงสร้างผิว ลดการสูญเสียน้ำจากเซลล์ผิว และมีข้อมูลว่าช่วยชะลอผิวเสื่อมตามวัยจากยูวีได้ดี นอกจากนี้การทาระยะยาวยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบนชั้นผิวได้ แต่ตัวนี้เป็นยาที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ และมีผลข้างเคียงที่มากกว่าอนุพันธ์วิตามินเอตัวอื่นๆ คือระคายเคืองผิวได้ง่าย มีผิวแห้ง ลอก แดง ได้ถ้าใช้ผิดวิธี

2. กลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอตัวอื่นๆ ที่มักใส่ในสกินแคร์ เช่น Retinaldehyde, Retinol, Retinyl ester ซึ่งจะมีความเบาตามๆกันไป ตามลำดับการออกฤทธิ์ดังนี้

Retinyl ester → Retinol → Retinaldehyde → Retinoic acid

จะเห็นว่า Retinaldehyde นั้นเปลี่ยนเป็น Retinoic acid เพียง 1 ขั้นตอน ดังนั้นจึงยังได้ผลดีในแง่ต่างๆที่ Retinoic acid ทำได้อยู่ และผลข้างเคียงลดลง จึงเหมาะกับคนที่อยากใช้ retinoic acid แต่ทนผลข้างเคียงไม่ได้ ก็สามารถขยับถอยมาใช้ Retinaldehyde ได้ หรือ ถ้าอยากให้ผลข้างเคียงน้อยกว่านั้นอีก ก็สามารถขยับถอยไปใช้ Retinol หรือ Retinyl ester ได้ แต่ประสิทธิภาพหรือความสามารถก็จะลดหลั่นลงไป

โดยมีงานวิจัยพบว่า

• Tretinoin ขนาด 0.05% ถ้าทานาน 3 เดือนขึ้นไป สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นผิว เพิ่มได้ 70-80%
• Retinaldehyde เปอร์เซ็นต์ที่ได้ผลแง่ anti-aging อยู่ที่ 0.05-0.5% ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นมากขึ้น ริ้วเรอยเล็กๆดีขึ้นได้
• Retinol 0.4-1% หลังทา 4 สัปดาห์ ช่วยเพิ่มคอลลาเจนที่ผิวได้ แต่สลายตัวได้ง่ายเมื่อถูกแสงและอากาศ ข้อดีคือ อ่อนโยน และระคายเคืองผิวน้อยกว่า

การเลือกใช้วิตามินเอ และอนุพันธ์ของวิตามมินเอ จึงควรเลือกตามสภาพผิว ความสามารถในการทนต่อการระคายเคือง แต่หลักการที่เหมือนๆกันคือ ถ้าเริ่มใช้ครั้งแรก ให้เลือกความเข้มข้นที่ต่ำๆไว้ก่อน ทาเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ถ้าทนได้ ไม่ระคายเคือง ค่อยเพิ่มความเข้มข้น หรือเปลี่ยนเป็นอนุพันธ์ที่มีความแรงกว่า