เจาะลึก จุดด่างดำ ปัญหาผิวที่รักษาได้ หากเข้าใจอย่างถูกต้อง
แม้ “จุดด่างดำ” จะไม่ใช่โรค แต่ก็เป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่ส่งผลต่อความมั่นใจและคุณภาพชีวิตของคนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะในสภาพอากาศเขตร้อนอย่างประเทศไทย ที่รังสียูวีเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เม็ดสีใต้ผิวผลิตมากเกินไป และเมื่ออายุเพิ่มขึ้น หรือเกิดการอักเสบจากสิว ผิวของเราก็ยิ่งไวต่อการเกิดจุดด่างดำมากขึ้น วันนี้ CH9 Wellness จะพาคุณมาทำความเข้าใจจุดด่างดำในมุมที่ลึกและครอบคลุม ตั้งแต่ชนิด สาเหตุ วิธีป้องกันและการรักษา โดยอ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยทางการแพทย์และประสบการณ์ของแพทย์ผิวหนังโดยตรง
จุดด่างดำมีกี่ชนิด?
จากการจำแนกทางการแพทย์ จุดด่างดำสามารถแบ่งออกได้หลัก ๆ เป็น 4 ประเภท ได้แก่
- ฝ้า (Melasma) เป็นภาวะผิวคล้ำที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้หญิงวัย 25–45 ปี เกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจน-โปรเจสเตอโรน ร่วมกับการกระตุ้นของรังสียูวี ทำให้เม็ดสีเมลานินถูกสร้างเพิ่มขึ้นในชั้นหนังแท้และหนังกำพร้า ฝ้ามีลักษณะเป็นปื้นสีน้ำตาลหรือเทาอ่อน บริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก หรือเหนือริมฝีปาก
- กระ (Freckles และ Lentigines)
- Freckles (Ephelides) เกิดจากพันธุกรรม มักพบในเด็กหรือวัยรุ่น และมักจางลงในฤดูหนาว
- Lentigines หรือกระแดด เป็นจุดสีน้ำตาลเข้มที่เพิ่มขึ้นตามอายุ และไม่จางลงเอง
- จุดดำหลังการอักเสบ (Post-Inflammatory Hyperpigmentation – PIH) พบได้บ่อยในผู้ที่มีผิวสองสีหรือผิวคล้ำ และเกิดหลังจากสิว แผล การแพ้ หรือการทำทรีตเมนต์รุนแรง โดยเม็ดสีจะถูกสร้างขึ้นมากในบริเวณที่มีการอักเสบ
- จุดด่างดำจากแสงแดดเรื้อรัง (Solar Lentigines) มักเรียกอีกชื่อว่า “Age Spots” หรือ “Liver Spots” เกิดจากการสะสมรังสียูวีในระยะยาว ทำให้ผิวสร้างเม็ดสีเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในบริเวณที่ถูกแสงแดดบ่อย เช่น โหนกแก้ม มือ และแขน
จุดด่างดำเกิดจากอะไรบ้าง?
การผลิตเม็ดสีเมลานินในผิวหนังถูกควบคุมโดยเอนไซม์ไทโรซิเนส (tyrosinase) ซึ่งทำหน้าที่เปลี่ยนกรดอะมิโนไทโรซีนให้เป็นเมลานิน ปัจจัยที่ทำให้ระบบนี้ทำงานมากผิดปกติ ได้แก่
- แสงแดด (UV-A และ UV-B) กระตุ้นการสร้างเมลานินโดยตรงผ่านการกระตุ้น Tyrosinase และ α-MSH (Melanocyte-Stimulating Hormone)
- ฮอร์โมน โดยเฉพาะในผู้หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิด ซึ่งระดับเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนสูงจะกระตุ้น melanocyte ให้ทำงานมากขึ้น
- การอักเสบของผิว (Inflammation) ทั้งจากสิว ผดผื่น หรือแม้แต่การเลเซอร์หรือขัดผิวแรง ๆ ซึ่งกระตุ้นการสร้างเม็ดสีมากเกิน
- ยาบางชนิด เช่น phenytoin, minocycline, หรือยารักษาโรคมะเร็งบางตัว ซึ่งมีผลข้างเคียงทำให้เกิดเม็ดสีมากผิดปกติ
- พันธุกรรม คนผิวคล้ำหรือมีประวัติครอบครัวเป็นกระหรือฝ้า มีแนวโน้มเกิดจุดด่างดำได้ง่ายกว่าปกติ
วิธีลดจุดด่างดำบนใบหน้า
การลดเลือนจุดด่างดำสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับชนิดของจุดด่างดำและระดับความลึกของเม็ดสีในผิว โดยแนวทางที่มีงานวิจัยสนับสนุน ได้แก่
- การป้องกันแสงแดดเป็นอันดับแรก การใช้ครีมกันแดดชนิด Physical + Chemical SPF 50+ PA++++ อย่างสม่ำเสมอทั้งเช้าและระหว่างวันสามารถลดการกระตุ้น melanocyte ได้ถึง 90% (J Clin Aesthet Dermatol. 2014)
- ผลิตภัณฑ์ทาภายนอกที่มีสารยับยั้ง Tyrosinase เช่น
- Niacinamide ยับยั้งการส่งผ่านเม็ดสี
- Vitamin C (Ascorbic acid) ต้านอนุมูลอิสระ
- Arbutin และ Kojic Acid ยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Tranexamic Acid ซึ่งมีงานวิจัยชี้ว่าให้ผลดีต่อฝ้าและ PIH เมื่อใช้ร่วมกับ Vitamin C
- ผลัดเซลล์ผิวด้วย AHA หรือ PHA
ช่วยให้เม็ดสีเมลานินที่ตกค้างในผิวชั้นนอกหลุดลอกเร็วขึ้น โดยไม่ทำให้ผิวบาง
วิธีรักษาจุดด่างดำบนใบหน้า
หากปัญหาลึกเกินกว่าครีมจะช่วยได้ การรักษาโดยแพทย์ผิวหนังจะช่วยเร่งผลลัพธ์ให้เห็นชัดเจนขึ้น โดยมีทางเลือกหลายรูปแบบ
- เลเซอร์ (Laser Therapy) เช่น Q-switched Nd:YAG, Pico Laser ช่วยทำลายเม็ดสีอย่างเฉพาะเจาะจงโดยไม่ทำลายผิวรอบข้าง งานวิจัยจาก Lasers in Surgery and Medicine (2020) พบว่า Pico Laser ช่วยลด PIH ได้ภายใน 4 สัปดาห์
- Microneedling + Tranexamic Acid เทคโนโลยีสร้างช่องเปิดในผิวเพื่อให้สารลดเม็ดสีซึมลึกและออกฤทธิ์ได้ดียิ่งขึ้น
- Skin Booster การฉีดวิตามินเข้มข้น เช่น Vitamin C, Glutathione, Tranexamic Acid, Stem Cell Extract
ที่ CH9 Wellness เราใช้สูตรเฉพาะของ Rejuran Brightening Booster + ASCE Stem Cell Extract ที่ช่วยฟื้นฟูและลดเม็ดสีอย่างปลอดภัย ไม่ทำให้ผิวบาง - เมโสหน้าใสสูตรเข้มข้น เทคนิคเฉพาะของ CH9 Wellness ที่ผสาน Growth Factors + Antioxidants ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีไหนได้ผลเร็วที่สุด? ในผู้ป่วยที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว การใช้ Pico Laser ร่วมกับการฉีด Skin Booster ที่มี Tranexamic Acid ถือว่าให้ผลดีที่สุดตามงานวิจัยของ J Cosmet Dermatol. 2022 ซึ่งพบว่ากลุ่มที่ได้รับการรักษาคู่กันมีความพึงพอใจและจุดด่างดำลดลงชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์
ถ้ารักษาหายแล้วจะมีโอกาสขึ้นมาอีกไหม?
แม้จะรักษาจนผิวกลับมาขาวใส แต่ถ้ายังสัมผัสแสงแดด หรือมีการอักเสบของผิวซ้ำ จุดด่างดำสามารถกลับมาได้เสมอ โดยเฉพาะฝ้าและกระแดด การดูแลระยะยาวจึงเป็นสิ่งสำคัญ
- ทาครีมกันแดดทุกวันแม้อยู่ในร่ม
- หลีกเลี่ยงความร้อนสูง เช่น ห้องซาวน่า
- ใช้สกินแคร์ที่มีสารควบคุมเม็ดสีอย่างต่อเนื่อง
- เข้ารับการบำรุงผิวด้วย Skin Booster หรือ IV Therapy ทุก 4–6 สัปดาห์ เพื่อคงผลลัพธ์
ดูแลผิวให้สวยใส…เริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้
CH9 Wellness ให้บริการดูแลผิวแบบครบวงจร ด้วยการประเมินสภาพผิวโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในการลดเม็ดสี ฟื้นฟูผิว และป้องกันการกลับมาใหม่ของจุดด่างดำ สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับ Brightening Program, Pico Laser, Rejuran Skin Booster และโปรแกรมวิเคราะห์สาเหตุผิวหมองคล้ำส่วนบุคคล (Personalized Pigmentation Analysis) ได้แล้ววันนี้ที่ CH9 Wellness Center เพราะผิวสวยไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เริ่มจาก “ความเข้าใจ” ที่ถูกต้อง
