ฮอร์โมนเพศชายควรอยู่ที่เท่าไร การตรวจสมดุลฮอร์โมน
ฮอร์โมนเพศชาย หรือ Testosterone ไม่ได้มีความสำคัญแค่กับเรื่องสมรรถภาพทางเพศเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อระบบกล้ามเนื้อ การเผาผลาญ ไขมัน มวลกระดูก พลังงาน ความจำ อารมณ์ ไปจนถึงสุขภาพหัวใจ ดังนั้นการมีระดับฮอร์โมนที่สมดุลจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้ชายทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในวัยที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา เช่น อายุ 35 ปีขึ้นไป ที่ CH9 Wellness Center เราให้ความสำคัญกับการดูแลสมดุลฮอร์โมนอย่างปลอดภัย โดยอ้างอิงข้อมูลทางการแพทย์เป็นหลัก พร้อมแนะแนวทางการปรับสมดุลที่เหมาะกับแต่ละบุคคลอย่างแท้จริง
ฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) ค่าปกติควรอยู่ที่เท่าไหร่?
จากข้อมูลของ Endocrine Society Clinical Practice Guideline และการวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ระดับฮอร์โมนเพศชายในเลือด (Serum Total Testosterone) สำหรับผู้ชายควรอยู่ที่ประมาณ: 300 – 1,000 ng/dL (นาโนกรัมต่อเดซิลิตร) ค่าที่ต่ำกว่า 300 ng/dL ถือว่าเข้าข่ายภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ (Low Testosterone หรือ Hypogonadism) และอาจต้องเข้ารับการวินิจฉัยเพิ่มเติม เพื่อดูว่าส่งผลต่อสุขภาพหรือไม่
ฮอร์โมนต่ำหรือสูงส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร?
ฮอร์โมนเพศชายต่ำ
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง
- มวลกล้ามเนื้อลดลง ไขมันสะสมมากขึ้น
- สมรรถภาพทางเพศลดลง เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า หงุดหงิดง่าย
- ภาวะกระดูกพรุนในผู้ชายที่ไม่รู้ตัว
- ความจำถดถอย สมาธิลดลง
ฮอร์โมนเพศชายสูงเกินไป
- อาจเกิดจากการใช้ฮอร์โมนทดแทนเกินขนาดโดยไม่มีการควบคุม
- เสี่ยงต่อปัญหาสิว ผมร่วง ความดันโลหิตสูง และการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด
- ในระยะยาวอาจกระทบต่อการทำงานของตับหรือไขมันในเลือด
ดังนั้นการดูแลฮอร์โมนให้ “สมดุล” คือหัวใจสำคัญ ไม่ใช่แค่ “สูง” หรือ “ต่ำ”
เหมาะสำหรับคนอายุเท่าไหร่
โดยทั่วไป ฮอร์โมนเพศชายจะเริ่มลดลงประมาณ 1% ต่อปี ตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไป การตรวจฮอร์โมนจึงเหมาะสำหรับผู้ชายตั้งแต่ช่วง อายุ 35 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะหากมีอาการเหนื่อยง่าย สมรรถภาพลดลง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ ความเครียด และอารมณ์แปรปรวน
อายุเยอะแล้ว ตรวจฮอร์โมนได้ไหม
แน่นอนว่า ตรวจได้และควรตรวจ โดยเฉพาะในผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไปที่มีอาการชัดเจน เช่น น้ำหนักขึ้นง่าย กล้ามเนื้อหาย สมรรถภาพทางเพศลดลง หรือมีโรคร่วมอย่างเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เพราะระดับฮอร์โมนที่ต่ำอาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโรคเรื้อรังเหล่านี้ หากพบเร็ว ก็สามารถฟื้นฟูสมดุลได้เร็วเช่นกัน
วิธีปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย ทำอย่างไร
- การปรับพฤติกรรม เช่น การนอนให้พอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดน้ำหนักส่วนเกิน และหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์
- การรับประทานอาหารที่ช่วยส่งเสริมฮอร์โมนเพศชาย เช่น อาหารที่มี Zinc, Vitamin D, Omega-3
- การเสริมวิตามินและสารกระตุ้นการผลิตฮอร์โมน อย่างปลอดภัย
- การรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน (Testosterone Replacement Therapy – TRT) ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น เพราะการใช้ผิดวิธีอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้
ที่ CH9 Wellness Center เรามีโปรแกรม Male Hormone Balance ซึ่งเริ่มต้นด้วยการตรวจระดับฮอร์โมนอย่างละเอียด พร้อมการวิเคราะห์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อออกแบบแผนฟื้นฟูที่ปลอดภัยและตรงจุด ทั้งการปรับสมดุลด้วยอาหารเสริมเฉพาะทาง การให้วิตามินทางหลอดเลือด (IV Drip) การปรับพฤติกรรม และการใช้ฮอร์โมนเฉพาะรายในกรณีจำเป็น
เพราะสุขภาพของผู้ชาย ไม่ควรปล่อยให้ระบบฮอร์โมนเป็นเรื่องของ “เวลา” ดูแลตัวเองให้สมดุล แข็งแรง และมั่นใจได้ในทุกช่วงวัย ตรวจวิเคราะห์ฮอร์โมนวันนี้กับผู้เชี่ยวชาญได้ที่ CH9 Wellness Center – ที่ที่คุณจะได้รับการดูแลครบวงจรทั้งสุขภาพ ความแข็งแรง และคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
