หย่อนสมรรถภาพทางเพศ จัดการได้

การหย่อนสมรรถภาพทางเพศคืออะไร?

การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction) หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่ากามตายด้านนั้น คือภาวะที่อวัยวะเพศชายไม่สามารถแข็งตัวได้สมบูรณ์ในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ อาการนี้อาจเกิดขึ้นกับผู้ชายในช่วงวัยใดก็ได้ แต่ก็มักจะพบมากขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น

กลไกในการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย

ค่อนข้างมีความซับซ้อน กล่าวคือ สิ่งเร้าจะกระตุ้นสมองให้ส่งสัญญาณผ่านเส้นประสาทไขสันหลัง สัญญาณเหล่านี้ก็จะกระตุ้นให้เกิดการปล่อยสารเคมีที่ทำหน้าที่ส่งข้อมูลไปทำให้หลอดเลือดส่งเลือดเข้าสู่อวัยวะเพศชาย จึงทำให้อวัยวะเพศชายขยายใหญ่ขึ้น เนื้อเยื่อของอวัยวะเพศชายมีลักษณะคล้ายฟองน้ำ เรียงตัวกันเป็นแท่ง การแข็งตัวของอวัยวะเพศชายจะเกิดขึ้นเมื่อมีเลือดเข้าสู่เนื้อเยื่อนี้และมีการขยายตัวเต็มที่ การขยายตัวดังกล่าวจะไปกดเส้นเลือดดำทำให้เลือดไหลออกจากอวัยวะเพศชายได้น้อย สาเหตุของการเสื่อสมรรถภาพทางเพศนั้นอาจเกิดจากการสะดุดในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งที่กล่าวมา โดยอาจมีสาเหตุจากปัญหาทางร่างกายหรือจิตใจก็ได้

ใครที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้

สาเหตุของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศมักจะมีหลายสาเหตุร่วมกัน หากมีหลายสาเหตุก็จะทำให้มีโอกาสเกิดมากขึ้น ปัจจัยที่เป็นสาเหตุได้แก่

  • อายุ พบว่าอายุมากก็พบโรคนี้ได้เพิ่มขึ้นโดยพบว่าผู้ที่มีอายุ 40-49,50-59,60-70 ปีจะพบ ED ได้ร้อยละ 20.4,46.3,73.4 ตามลำดับ
  • สังคมและเศรษฐกิจ พบว่าผู้ที่มีรายได้สูง มีความรู้ อาชีพที่ดีจะมีปัญหา ED น้อยกว่าคนที่มีรายได้น้อย
  • โรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรัง โรคประจำตัวต้องเป็นโรคเรื้อรังที่เป็นมานานพอควรเป็นโรคที่มีผลต่อหลอดเลือดแดง หลอดเลือดดำ กล้ามเนื้อบริเวณอวัยวะเพศสามารถทำให้โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เช่นโรคเบาหวาน โรคไต โรคพิษสุราเรื้อรัง โรคหลอดเลือดแดงแข็ง atherosclerosis โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศในกลุ่มนี้พบได้ร้อยละ 70 โรคที่สำคัญ ได้แก่
    • โรคหัวใจและหลอดเลือด เพราะจะทำให้มีการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศน้อยลง
    • โรคความดันโลหิตสูง
    • โรคเบาหวาน มักจะเกิดหลังจากเป็นเบาหวานแล้วประมาณ 10 ปีซึ่งมีสาเหตุสำคัญคือ เส้นเลือดแข็ง ระบบประสาทอัตโนมัติ
    • โรคต่อมลูกหมากโต
    • การผ่าตัดและอุบัติเหตุ ที่มีผลต่อเส้นประสาทที่ไปควบคุมการแข็งตัวขององคชาต เช่นการผ่าตัดในอุ้งเชิงกราน การผ่าตัดต่อมลูกหมาก การได้รับอุบัติเหตุที่อวัยวะเพศ ประสาทไขสันหลัง กระเพาะปัสสาวะ กระดูกเชิงกราน อาจจะทำลายเส้นประสาททำให้เกิดกามตายด้าน การผ่าตัดผ่านทางท่อปัสสาวะ
    • จากยาที่รับประทาน ยาหลายชนิดอาจจะทำให้ความต้องการทางเพศลดลง บางชนิดอาจจะทำให้เกิดกามตายด้าน
    • พฤติกรรมการดำรงชีวิต ได้แก่ การสูบบุหรี่ คนที่สูบบุหรี่จะมีการเกิด ED สูงกว่าคนไม่สูบโดยพบได้ร้อยละ 45 คนปกติพบได้ร้อยละ 35, การดื่มสุรา คนที่ดื่มสุราจะมี RD ร้อยละ 54 ซึ่งคนปกติพบได้ร้อยละ 28 และการออกกำลังกายผู้ที่ออกกำลังจะพบได้น้อยกว่าผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย
    • ED ที่เกิดจากจิตใจ พบได้ประมาณร้อยละ 10-20 ของผู้ป่วยโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ภาวะดังกล่าวอาจจะเกิดจากความเครียด ความวิตกกังวลเกี่ยวกับงาน ครอบครัว ความกลัวความล้มเหลวทางเพศสัมพันธ์ หรือถูกตำหนิจากคู่ครองทำให้หมดความมั่นใจ

สาเหตุของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศคืออะไร

  1. ปัญหาทางอารมณ์และจิตใจ เช่น ความรู้สึกผิดหรือความกังวลต่างๆ โดยเฉพาะความกังวลเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งกลัวว่าอวัยวะเพศจะไม่สามารถแข็งตัวได้ จนกลายเป็นสิ่งรบกวนใจถึงขนาดที่ทำให้เกิดเป็นความคาดการณ์ไปเองว่าจะเป็นเช่นนั้น
  2. สภาวะที่มีผลกระทบต่อสมองและการลดลงของแรงขับทางเพศ ได้แก่ อาการซึมเศร้าหรือโรคจิตเภท การใช้ยาที่มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง เช่น ยาระงับประสาท ยาต้านการซึมเศร้า ยาลดความดันโลหิตบางชนิด และแอลกอฮอล์ รวมไปถึงการป่วยเรื้อรัง เช่นโรคหัวใจ ปอด ไต หรือโรคตับ และโรคมะเร็งบางชนิด
  3. การเปลี่ยนแปลงด้านฮอร์โมน ที่ทำให้ความต้องการทางเพศลดลง รวมถึงระดับเทสโทสเทอโรนลดลง ระดับโปรแลกตินเพิ่มขึ้น(ซึ่งขึ้นอยู่กับการทำงานของต่อมพิทูอิทารี่) และภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนมากหรือน้อยเกินไป
  4. ความผิดปกติต่างๆ ทางสมอง ซึ่งความผิดปกตินี้อาจไม่มีผลต่อเรื่องความต้องการทางเพศ แต่จะมีความเกี่ยวเนื่องทางระบบประสาทซึ่งมีผลต่อการทำหน้าที่ทางเพศ ความผิดปกติดังกล่าวจะรวมถึงเนื้องอกในสมองและเส้นเลือดในสมองอุดตันด้วย
  5. มีความผิดปกติที่บริเวณไขสันหลัง เช่น ความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง (Multiple Sclerosis) หรือการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง
  6. เส้นประสาทส่วนปลายถูกทำลาย โดยมีสาเหตุจากโรคเบาหวาน หรือการผ่าตัดกระดูกเชิงกรานเพื่อรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก หรือมะเร็งลำไส้
  7. การรับประทานยาบางชนิด ก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาการเสื่อสมรรถภาพทางเพศได้ ได้แก่ ยาต้านอาการซึมเศร้า anticholinergics ยากลุ่มแอนตี้ฮีสตามีน ยาลดความดันโลหิตสูง เบต้า-บล็อกเกอร์ (และยาลดความดันอื่นๆ ในกลุ่ม antihypertensives) รวมไปถึงการได้รับสารนิโคตินจากการสูบบุหรี่เป็นระยะเวลานานๆ ด้วย
  8. โรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดส่วนปลาย (การไหลเวียนของเลือดไม่ถึงอวัยวะส่วนปลายสุดและอวัยวะเพศชาย)
  9. ความอ่อนล้า
  10. อายุมากขึ้น

สาเหตุของ ED แยกตามระบบต่างๆ

  • ความผิดปกติของเส้นเลือดแดง เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดสาเหตุสำคัญได้แก่
    • โรคเบาหวาน
    • โรคความดันโลหิตสูง
    • โรคไขมันในเลือดสูง
    • การสูบบุหรี่
    • การฉายแสง
    • คนที่ขี่จักรยานทางไกล ขี่มอเตอร์ไซด์
  • ความผิดปกติของระบบประสาท แบ่งตามระดับต่างๆได้ดังนี้
    • ระดับสมอง เช่นเนื้องอกสมอง โรคลมชัก อัมพาต Parkinson Alzheimer’s disease
    • ระดับไขสันหลัง สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือการได้รับอุบัติเหตุ
    • ระดับเส้นประสาทและปลายประสาท สาเหตุที่พบบ่อยคือโรคเบาหวาน นอกจากนั้นยังพบได้ในผู้ที่ผ่าตัดในช่องท้อง ผ่าตัดต่อมลูกหมาก
  • ความผิดปกติเกี่ยวกับหลอดเลือดดำ มักจะพบในผู้ที่สูงอายุ โรคเบาหวานเนื่องจากมีการแข็งตัวของหลอดเลือดดำ
  • ความผิดปกติในระดับฮอร์โมน ผู้ที่มีฮอร์โมนเพศชายน้อยกว่าปกติมักจะมีปัญหาเรื่อง ED โดยจะมีความต้องการทางเพศลดลง แต่จะไม่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
  • ความผิดปกติเกี่ยวกับเรื่องจิตใจ ซึ่งแบ่งได้เป็นสองประเภท คือพวกที่มีโรคทางจิตใจอยู่เก่า เช่นโรคซึมเศร้า ผู้ที่เครียด ส่วนประเภทที่สองคือพวกที่มีปัญหาทางเพศซึ่งอาจจะเกิดจากการหลั่งเร็ว หรือแข็งตัวไม่เต็มที่แล้วเกิดความกังวลใจเรื้อรัง

อาการของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

อาการอย่างไรที่เข้าข่ายเป็นอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ( Erectile Dysfunction: ED) อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศแบ่งตามระดับความรุนแรงของอาการ จากการศึกษาในชายสูงอายุในมลรัฐแมสซาชูเซตส์ ( Massachusetts Male Aging Study) ซึ่งศึกษาระบาดวิทยาของอาการนี้ไว้ดังนี้

  • หย่อนสมรรถภาพในระดับต่ำ: ผู้ป่วยสามารถมีอวัยวะเพศแข็งตัวพอดีสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ได้เกือบทุกครั้ง
  • หย่อนสมรรถภาพระดับปานกลาง: ผู้ป่วยสามารถมีอวัยวะเพศแข็งตัวดีสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ได้เป็นบางครั้ง
  • หย่อนสมรรถภาพระดับรุนแรง: ผู้ป่วยไม่สามารถมีอวัยวะเพศแข็งตัวดีพอสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ได้เลย

หากคุณมีอาการดังกล่าวนานเกิน 2 เดือนหรืออาการเกิดซ้ำควรปรึกษาแพทย์วิธีรักษาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

การวินิจฉัย

ประวัติการเจ็บป่วย โรคที่เป็นอยู่ ยาที่ใช้เป็นประจำ ความถี่ของความต้องการทางเพศ ความถี่ของการแข็งตัว ความถี่ของการหลั่ง ข้อมูลเหล่านี้คุณต้องเตรียมไว้สำหรับตอบคำถามแพทย์

การตรวจร่างกาย ลองจับอวัยวะเพศว่ามีการแข็งตัวหรือไม่หากไม่มีการแข็งตัวอาจจะหมายถึงว่ามีปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาท มีการร่วงของขนอวัยวะเพศหรือไม่หากมีสาเหตุก็อาจจะเกิดจากต่อมไร้ท่อ

การวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการณ์ แพทย์จะเจาะเลือดตรวจการทำงานของตับ น้ำตาล ไต ไขมันผลเลือดทั่วไป สำหรับผู้ที่มีความต้องการทางเพศต่ำอาจจะต้องเจาะหาระดับฮอร์โมน testosterone นอกจากนั้นยังต้องสังเกตการแข็งตัวของอวัยวะเพศระหว่างที่หลับหากสามารถแข็งตัวตอนกลางคืน หรือตอนเช้ามืดแสดงสาเหตุน่าจะเกิดจากจิตใจ

วิธีรักษาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

  1. หลีกเลี่ยงการรับสารนิโคตินจากการสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพย์ติดอื่นๆ
  2. ถ้ายาที่ใช้อยู่เป็นสาเหตุของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แพทย์ผู้ให้การรักษาอาจเปลี่ยนยาชนิดใหม่ให้
  3. กรณีที่การหย่อนสมรรถภาพทางเพศมีสาเหตุจากปัญหาด้านอารมณ์หรือจิตใจ แพทย์หรือผู้ให้คำปรึกษาทางจิตเวชจะเป็นผู้ที่สามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมเพื่อรักษาอาการดังกล่าวได้
  4. ถ้าระดับเทสโทสเทอโรนในเลือดต่ำ สามารถรักษาได้ด้วยการฉีดเทสโทสเทอโรนเข้าร่างกายหรือแปะที่ผิวหนัง
  5. อาจต้องทำการรักษา ถ้ามีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนสูง (Hyperthyroidism) หรือ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ (hypothyroidism) จนเกินไป
  6. การรักษาด้วยยา Bromocriptine เพื่อรักษาระดับของโปรแลคตินที่เพิ่มมากเกินไป
  7. ในปัจจุบันมีการรักษาด้วยยารับประทานสามชนิดที่มีประสิทธิภาพ นั่นคือ ยาไวอะกร้า (sildenafil) ยาเลวิตร้า(vardenafil) และยาเซียลิส (tadalafil) ยาทั้งสามชนิดสามารถรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้โดยทำให้เลือดไหลเวียนเข้าไปสู่อวัยวะเพศชายได้ในระหว่างมีการกระตุ้นทางเพศ ยาเหล่านี้จะไม่ได้ก่อให้เกิดการแข็งตัวในช่วงที่ไม่ได้มีการกระตุ้นทางเพศ ยาไวอะกร้าและเลวิตร้าช่วยให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ประมาณ 4 ชั่วโมง ส่วนยาเซียลิสจะมีผลประมาณ 24-36 ชั่วโมง ผลข้างเคียงของยาทั้งสามแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ยานี้ไม่ควรใช้กับผู้ที่กำลังใช้ยาประเภทที่มีส่วนผสมไนเตรทอยู่ เช่น ไนโตรไกลเซอริน หรือไม่ควรใช้กับคนไข้ที่เป็นโรคเส้นเลือดในสมองอุดตัน มีอาการหัวใจวาย หรือหัวใจเต้นผิดปกติขั้นรุนแรง
  8. การใช้เครื่องปั๊มสูญญากาศเพื่อช่วยให้เกิดการแข็งตัว หลักการทำงานของเครื่องคือ อากาศจะถูกปั๊มออกจากท่อพลาสติกที่นำไปสวมไว้ที่อวัยวะเพศชาย ภายในเวลา 2-3 นาทีหลังทำการปั๊ม เลือดจะถูกดึงให้เข้าไปที่เนื้อเยื่อ corpora cavernosa ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่มีลักษณะคล้ายฟองน้ำ เมื่ออวัยวะเพศแข็งตัวแล้ว เครื่องมือนี้จะถูกนำออกไป จากนั้นจึงนำหนังสติ๊กรัดที่ฐานของอวัยวะเพศชาย เพื่อช่วยให้คงการแข็งตัวได้
  9. การฉีดยา alprostadil ด้วยตัวเอง ยาชนิดนี้เป็นยาที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว เพื่อนำเลือดเข้าสู่อวัยวะเพศชาย จนเกิดการแข็งตัว แพทย์ของคุณจะเป็นผู้แนะนำเทคนิควิธีการฉีดยาที่ถูกต้อง
  10. รักษาด้วย ESWT เป็นเทคโนโลยีล่าสุดในการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ อันเนื่องจากเลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศไม่เพียงพอขณะมีเพศสัมพันธ์ ด้วย Shock Wave Therapy คือ การใช้คลื่นเสียงที่มีความเข้มต่ำแบบแรงกระแทกจากภายนอก (Low-Intensity Extracorporeal Shock Wave Therapy : LI-ESWT) ไปกระตุ้นบนอวัยวะเพศของผู้ป่วย เป็นผลทำให้เกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่เพิ่มขึ้นในอวัยวะเพศจากหลอดเลือดเดิม เมื่อหลอดเลือดในอวัยวะเพศทำงานได้ดีขึ้น การตื่นตัวและการขยายของอวัยวะเพศจึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น นับเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะผิดปกติการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ซึ่งมีความปลอดภัยสูง ปลอดภัยจากผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยการใช้ยา

    โปรแกรมรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วย Shock Wave for ED Program

    • เข้ารับการรักษา 1-2 สัปดาห์ต่อเนื่องครบ 5-10 ครั้ง
    • ระยะเวลาในการรักษาครั้งละประมาณ 6-10 นาที
    • โดยผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกเหมือนมีแรงกระแทกเบาๆ บริเวณอวัยวะเพศขณะรักษา ไม่รู้สึกเจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น สามารถดำเนินชีวิตหรือมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติหลังจากการรักษา เนื่องจากเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัย ปราศจากผลข้างเคียง จึงเหมาะสมกับผู้ที่ไม่ต้องการรักษาด้วยการรับประทานยารักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อยา หรือผู้ที่เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยา
    • ผลการรักษา คนไข้ที่เข้ารับการรักษาหลังจากครั้งที่ 3 – 4 จะพบว่ามีความสามารถในการแข็งตัวของอวัยวะเพศดีขึ้นเมื่อเทียบกับก่อนการรักษา และสมรรถภาพทางเพศจะค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเข้ารับการรักษาครบตามกำหนด ทั้งนี้จำนวนครั้งของการรักษาอาจขึ้นกับภาวะความรุนแรงของโรคหรือปัจจัยอื่นๆ เช่น เบาหวาน ภาวะเครียด โดยแพทย์ผู้ทำการรักษาจะเป็นผู้พิจารณาและประเมินผล
  11. การผ่าตัด Surgery การผ่าตัดใส่แกน prostheses เข้าไปในท่อแกนแข็งตัวอวัยวะเพศ กรณีใช้วิธีข้างต้นไม่ได้ผล มี 2 วิธี
    1. ใส่แกนแข็งชิ้นเดียว
    2. ใส่แกน 3 ชิ้น มี ยุบพองได้

ถ้าไม่รักษาจะมีปัญหา

อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เป็นอาการที่พบบ่อยและก่อให้เกิดปัญหาในชีวิตประจำวันในหลายด้าน ผู้ชายราว 30 ล้านคนในสหรัฐอเมริกามีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เมื่อคำนวณจากตัวเลขนี้จะพบว่าผู้ชายทั่วโลกเป็นอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ มากกว่า 100 ล้านคน ประมาณว่า 52% ของชายอายุ40-70 ปีมีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศระดับใดระดับหนึ่ง ในหมู่คนเหล่านี้จำนวนมากมีปัญหาความเครียดที่กระทบกระเทือนต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว และอาจทำให้เกิดอาการซึมเศร้า สูญเสียความนับถือตัวเอง และมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของตนเอง (Poor Self-Image)

การป้องกันการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

  • ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไม่เกินวันละ 2 แก้ว
  • งดสูบบุหรี่
  • ปรึกษานักบำบัดเกี่ยวกับการปรับปรุงการสื่อสารกับคู่ของคุณ

   จองและซื้อโปรแกรม คลิกที่นี่ 

คำยืนยันจากผู้รับบริการ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ปรึกษาได้ทุกวัน 8:00 – 18:00 น.
โทร. 091-770-6640 หรือ 02-115-2111 ต่อ 1189