บอกลารอยสิวด้วยเลเซอร์

ซึ่งการรักษารอยสิวมีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการทานวิตามิน การทานยา การผลักวิตามิน การใช้ยาทาผิวกลุ่ม AHA การทำเมโส ซึ่งแต่ละวิธีต้องใช้การทำต่อเนื่องเป็นเวลานาน และทำซ้ำหลายๆ ครั้ง จึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลง แต่มีอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลเร็ว เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกและไม่ต้องทำซ้ำบ่อยๆ ก็คือการใช้เครื่องเลเซอร์นั่นเอง

การรักษารอยสิวด้วยเลเซอร์ คือการใช้เครื่องมือที่ปล่อยพลังงานแสงที่มีความเข้มข้น และมีความถี่ที่เหมาะสม แล้วแต่ลักษณะของรอยนั้น ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าต้องใช้เครื่องมือตัวไหน

เครื่องมือแก้ปัญหารอยสิว มีอะไรบ้าง

เครื่องมือที่ใช้เพื่อแก้ปัญหารอยสิว มีหลากหลายมาก แต่ขอแนะนำเบื้องต้นประมาณ 4 ตัว ตามมาดูกันเลย

• IPL เป็นการรักษารอยสิวด้วยการใช้คลื่นแสงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดการผลิตเม็ดสี เหมาะกับรอยดำ
• V-Beam เป็นการรักษารอยสิวด้วยการใช้คลื่นแสงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและจัดการเม็ดสีแดงและเส้นเลือดฝอยรอบๆรอยสิว เหมาะกับรอยแดง
• Q-Switch เป็นการรักษารอยสิวด้วยการใช้คลื่นแสงทำลายการจับตัวของเม็ดสีดำ เหมาะกับรอยดำ
• Fractional CO2 เป็นการรักษารอยสิวด้วยการใช้คลื่นแสงกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และผลัดเซลล์ผิวเก่าออก เหมาะกับทั้งรอยแดงและรอยดำ

ความถี่ของการทำเลเซอร์

โดยปกติการทำเลเซอร์ลดรอยสิว จะทำห่างกัน 1 – 2 ต่อครั้ง แล้วแต่ปัญหาของแต่ละคน ทำซ้ำได้ตั้งแต่ 3 – 4 ครั้งขึ้นไปแล้วแต่คำแนะนำของแพทย์

การดูแลหลังทำเลเซอร์

• ภายใน 24 ชั่วโมงแรก งดทำความสะอาดใบหน้า งดใช้ครีมบำรุง
• ภายใน 2-3 วันหลังทำเลเซอร์ งดทำความสะอาดใบหน้าอย่างรุนแรง ใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนเท่านั้น
• ภายใน 7 วันหลังทำเลเซอร์ งดใช้เครื่องสำอางค์ หากออกไปนอกบ้าน ให้ใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์กันแดด SPF 50 PA+++ ขึ้นไป
• ภายใน 14 วันหลังทำเลเซอร์ งดออกแดดจัด
• ภายใน 30 วันหลังทำเลเซอร์ งดกการทำเลเซอร์อื่นๆ ซ้ำ

แต่ที่สำคัญที่สุดในการเลือกรักษารอยสิวด้วยเลเซอร์คือ การเลือกสถานที่ที่ปลอดภัยและทำโดยแพทย์ เพราะหากเกิดปัญหาใดๆ ขึ้น แพทย์จะสามารถแก้ไขปัญหาให้เราได้ออย่างทันการณ์ ไม่ทำให้เกิดปัญหาหนักกว่ารอยสิวที่เรามี