การหยุดหายใจขณะนอนหลับ
การหยุดหายใจขณะนอนหลับ (Sleep Apnea) ปัญหานี้มีสาเหตุสองประเภทหลัก
- Sleep Apnea ประเภทที่หยุดหายใจชั่วคราว (Obstructive Sleep Apnea – OSA) : สาเหตุหลักคือการตีบแคบ ซึ่งทำให้เกิดการติดขัดและหยุดหายใจขณะนอนหลับ ผู้ที่มี OSA อาจประสบกับอาการหยุดหายใจเป็นจำนวนมากในระหว่างการนอน ซึ่งส่งผลให้ร่างกายไม่ได้รับออกซิเจนเพียงพอและอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่นเหนื่อยง่าย นอนไม่หลับลึก และเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
- Sleep Apnea ประเภทที่หยุดหายใจโดยไม่มีเหตุผล (Central Sleep Apnea – CSA) : ประสาเหตุของ CSA คือความไม่สมดุลของระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ อาการ CSA ทำให้ร่างกายหยุดหายใจขณะนอนหลับเช่นกัน แต่มีสาเหตุที่แตกต่างจาก OSA
การหยุดหายใจขณะนอนหลับไม่เพียงแต่ทำให้คุณรู้สึกไม่สดชื่นและเหนื่อยใจตอนตื่นขึ้น แต่ยังเป็นปัญหาสุขภาพร้ายแรงที่อาจเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูงและมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตทั่วไปของคุณด้วย หากคุณหรือใครบางคนที่คุณรู้จักมีอาการนอนหลับไม่สบายหรือสงสัยเกี่ยวกับ Sleep Apnea ควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
การวินิจฉัยการหยุดหายใจขณะนอนหลับทำได้อย่างไร
การวินิจฉัยการหยุดหายใจขณะนอนหลับมักเริ่มด้วยการประเมินอาการและประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วยโดยแพทย์คลินิกคลื่นไฟฟ้าหัวใจและทางอาการอาจจะร้องขอข้อมูลจากผู้ร่วมสูบบุหรี่หรือผู้ที่ใกล้ชิดด้วย เพื่อเข้าใจสภาพและความรุนแรงของปัญหา Sleep Apnea
การวิเคราะห์การนอนหลับ (Polysomnography) คือขั้นตอนที่สำคัญในการวินิจฉัย Sleep Apnea โดยใช้เซ็นเซอร์และเครื่องมือที่บันทึกข้อมูลต่าง ๆ ขณะคุณนอนหลับ สิ่งที่มักถูกตรวจวัดรวมถึง
- การหยุดหายใจ (Apnea) การหยุดหายใจเป็นเครื่องมือสำคัญในการวินิจฉัย Sleep Apnea คลื่นไฟฟ้าหัวใจและการวัดออกซิเจนในเลือดจะถูกตรวจวัดเพื่อบันทึกอาการหยุดหายใจ
- การหายใจช้าลง (Hypopnea) การลดจำนวนหายใจหรือปริมาณออกซิเจนในเลือดที่ต่ำกว่าปกติ
- คลื่นไฟฟ้าสมอง เพื่อตรวจวัดระยะเวลาที่คุณอยู่ในสถานะการนอนหลับต่าง ๆ รวมถึงระยะเวลาการหยุดหายใจ
- การเคลื่อนไหวขณะนอน เซ็นเซอร์อาจตรวจวัดการเคลื่อนไหวขณะคุณนอนหลับ เพื่อบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ขณะหยุดหายใจ
- ระดับเสียงการนอน เพื่อบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับเสียงการกรนนอน
หลังจากการวินิจฉัยเสร็จสิ้น แพทย์จะสามารถระบุความรุนแรงของ Sleep Apnea และกำหนดแผนการรักษาที่เหมาะสม เช่น การใช้เครื่อง CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) หรือรับการรักษาอื่น ๆ ตามความเหมาะสมของผู้ป่วย
ข้อควรปฏิบัติในการเตรียมตัวตรวจการนอนหลับ
- อาบน้ำ สระผม ให้สะอาดก่อนมาตรวจ ห้ามใส่น้ำมันหรือครีมใดๆ
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ ในวันที่จะมาตรวจ
- หลีกเลี่ยงการงีบหลับในช่วงกลางวันของวันที่จะมาตรวจ
- กรุณาจดชื่อ และขนาดยา พร้อมทั้งนำยาทุกชนิดที่รับประทานอยู่ติดตัวมาด้วย (หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องยา กรุณาปรึกษาแพทย์ผู้ตรวจ)
- กรุณามาถึงโรงพยาบาลก่อน 20.00 น. โดยติดต่อที่แผนกรับผู้ป่วยใน
- เมื่อท่านมาถึง เจ้าหน้าที่ประจำห้องตรวจจะเริ่มทำการติดตั้งเครื่องมือและตัวตรวจวัดต่างๆ โดยจะใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที
- สำหรับการตรวจตอนกลางคืน จะสิ้นสุดลงเวลาประมาณ 06.00 น. ของวันรุ่งขึ้น (เวลาอาจมาการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นกับเวลาเข้านอน – ตื่นนอนตามปกติของท่าน)
- ทางโรงพยาบาลจัดเตรียมอาหารเช้าวันรุ่งขึ้นสำหรับท่านรับประทานก่อนกลับบ้าน
