กลากเกลื้อน เชื้อราใกล้ตัว รักษาได้
กลากเกลื้อน เป็นโรคผิวหนังติดเชื้อราที่พบบ่อย และคุ้นหูสำหรับคนทั่วไป แต่จริงแล้วคำนี้แบ่งเป็น 2 โรคคือ โรคกลาก และโรคเกลื้อน
โรคกลาก (Dermatophytosis)
โรคกลาก เป็นโรคติดเชื้อราชนิดตื้นบริเวณผิวหนังชั้นนอก จะมีลักษณะเฉพาะคือผื่นจะเป็นวง ขอบเขตชัดนูนแดง และมีขุย ซึ่งต่อมาผื่นจะค่อยๆลามออกกว้างขึ้น และมีอาการคัน โดยเชื้อกลากนั้นแบ่งตามแหล่งกำเนิดได้หลักๆ 3 ทางคือ เชื้อจากสัตว์ เชื้อจากดิน และเชื้อจากคนสู่คน โดยนอกจากจะติดที่ผิวหนังแล้ว ยังสามารถพบการติดเชื้อที่หนังศีรษะ และเล็บได้ด้วย
การรักษา กรณีติดเชื้อที่ผิวหนัง สามารถใช้ยาทาฆ่าเชื้อราได้ ร่วมกับ แชมพูขจัดเชื้อรา ฟอกตามบริเวณที่ติดเชื้อ กรณีที่ติดเชื้อเป็นวงกว้าง อาจจำเป็นต้องกินยาฆ่าเชื้อราร่วมด้วย
โรคเกลื้อน (Pityriasis versicolor)
โรคเกลื้อน เป็นการติดเชื้อราชนิดตื้นๆอีกโรคที่พบบ่อย โดยเชื้อเกลื้อนนั้นปกติจะพบอยู่ตามผิวคนทั่วไปอยู่แล้ว ซึ่งพบได้ในบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น ใบหน้า หน้าอก หลัง และหนังศีรษะ ซึ่งภาวะปกติ เชื้อเกลื้อนจะไม่ก่อโรค แต่เมื่อมีปัจจัยที่กระตุ้น เช่น อากาศร้อนชื้น เหงื่อออกมาก ภูมิตก ก็จะให้เชื้อเกลื้อนเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว จนก่อโรคได้ คือ โรคเกลื้อน ซึ่งจะมีลักษณะ เป็นผื่นวงกลม วงรี เล็กๆหลายๆอัน มีขุยละเอียด และอาจขยายรวมกันเป็นผื่นใหญ่ได้ โดยผื่นของโรคเกลื้อนนั้นมีได้หลายสี เช่น สีน้ำตาล ขาว หรือ ชมพูแดง การวินิจฉัยโรค จะอาศัยประวัติ และการตรวจผื่นเป็นหลัก และการขูดเชื้อส่งตรวจเพิ่มเติมจะช่วยยืนยันการวินิจฉัยได้ดีขึ้น
การรักษา จะเน้นใช้ยาทาภายนอกเป็นหลัก เช่น การใช้แชมพูฟอกตัว กลุ่ม selenium sulfide, ketoconazole เป็นต้น ร่วมกับยาทาฆ่าเชื้อรา ทั้งนี้ต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นด้วย เช่น เหงื่อ และความร้อน
การป้องกันสำหรับโรคกลากเกลื้อน
- พยายามอย่าสัมผัสใกล้ชิด และใช้ของร่วมกับผู้ที่เป็นโรคกลาก และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์เลี้ยงที่ติดเชื้อรา
- รักษาความสะอาดของร่างการทุกวัน หลังอาบน้ำ เช็ดตัวให้แห้ง
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อากาศร้อนชื้นเป็นเวลานาน
- พยายามอย่าให้เกิดความอับชื้นตามจุดอับของร่างกาย เช่น รักแร้ ขาหนีบ ใต้ราวนม และหง่ามนิ้วมือ นิ้วเท้า
