กระแดด เกิดจากอะไร
“กระ” เป็นจุดหรือรอยสีน้ำตาลเข้มที่มักเกิดขึ้นบนใบหน้า แขน หรือบริเวณที่ถูกแสงแดดบ่อย หลายคนมักเรียกสิ่งเหล่านี้รวม ๆ ว่า “กระ” แต่ในทางผิวหนัง กระมีหลายชนิด ซึ่งหนึ่งในชนิดที่พบได้บ่อยในคนเอเชียคือ “กระแดด”
กระแดด (Solar Lentigines) คืออะไร
กระแดดเกิดจากการที่ผิวหนังได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากแสงแดดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จนกระตุ้นให้เซลล์เมลาโนไซต์ (Melanocyte) สร้างเม็ดสีเมลานินมากกว่าปกติ สะสมอยู่ในบริเวณผิวหนังบางจุด ทำให้เกิดเป็นรอยสีน้ำตาลเข้มหรือเทาอมน้ำตาล พบมากบริเวณที่โดนแสงแดดซ้ำ ๆ เช่น
- โหนกแก้ม
- หน้าผาก
- จมูก
- หลังมือ
- หัวไหล่
กระแดดจะมีลักษณะเรียบ สีเข้มขึ้นช้า ๆ ไม่มีอาการเจ็บหรือคัน และไม่หายไปเอง
กระแดดต่างจากกระชนิดอื่นอย่างไร
กระมีหลายประเภท และการแยกแยะให้ถูกต้องจึงจำเป็นสำหรับการรักษาที่เหมาะสม
- กระธรรมดา (Ephelides) มักพบในคนผิวขาว เกิดตั้งแต่วัยเด็ก สีจางลงได้ในฤดูหนาว
- กระลึก (Hori’s Nevus) เป็นเม็ดสีที่ฝังอยู่ลึกในชั้นหนังแท้ สีออกเทา-ม่วง พบมากในหญิงไทยวัยกลางคน
- กระแดด (Solar Lentigines) มักพบในคนอายุ 30 ปีขึ้นไป มีขนาดไม่เท่ากัน สีเข้ม และมักเพิ่มจำนวนเมื่ออายุมากขึ้นหรือโดนแดดจัด
กระแดดหายเองได้ไหม
โดยธรรมชาติ กระแดด ไม่สามารถหายเองได้ เนื่องจากเม็ดสีถูกสร้างขึ้นลึกในชั้นผิว และไม่สามารถผลัดออกตามวัฏจักรของเซลล์ผิวปกติ ยิ่งปล่อยไว้นาน กระก็จะยิ่งเข้มขึ้น และรักษายากขึ้น
ทาครีมช่วยลดกระแดดได้ไหม
ครีมบำรุงหรือเวชสำอางบางชนิดสามารถช่วยลดเลือน “เฉดสี” ของกระได้เล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อใช้ในระยะแรกเริ่ม หรือกระที่ไม่ลึกมาก ตัวอย่างสารสำคัญ ได้แก่
- Vitamin C: ลดการสร้างเม็ดสี และต้านอนุมูลอิสระ
- Niacinamide: ยับยั้งการส่งเม็ดสีจากเซลล์เมลาโนไซต์
- Kojic acid / Arbutin / Licorice extract: มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ที่สร้างเมลานิน
- Retinoids (วิตามินเอ): ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว และลดจุดสีผิวที่ผิดปกติ
อย่างไรก็ตาม ครีมเพียงอย่างเดียวมักไม่สามารถลบกระแดดที่ฝังลึกได้ทั้งหมด จึงมักใช้ร่วมกับหัตถการทางการแพทย์เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
วิธีรักษากระแดดให้หายขาด
การรักษากระแดดที่มีประสิทธิภาพ ต้องพิจารณาหลายปัจจัย ได้แก่ ความลึกของเม็ดสี ชนิดของกระ และสภาพผิวโดยรวม แนวทางที่แพทย์ผิวหนังเลือกใช้ ได้แก่
- เลเซอร์พลังงานแสง (SLT® Soft Lasing Technology) ใช้แสงในช่วงคลื่นเฉพาะเจาะจงกับเม็ดสี ช่วยสลายเมลานินโดยไม่ทำลายผิว
- จำนวนครั้งที่ต้องรักษา: ประมาณ 3–5 ครั้ง
- ระยะห่าง: ทุก 3–4 สัปดาห์
- SLT® ใช้พลังงานต่ำ ไม่เกิดความร้อนสะสม ไม่ตกสะเก็ด และไม่ต้องพักฟื้น
- กรดผลไม้เข้มข้น (Chemical Peeling) ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นบนที่มีเม็ดสีสะสม แต่ไม่สามารถลึกถึงกระที่ฝังลึกได้
- การทายาเฉพาะจุดภายใต้การดูแลของแพทย์ เช่น Hydroquinone หรือกรดวิตามินเอ ซึ่งต้องใช้ภายใต้การควบคุมอย่างระมัดระวัง
- ป้องกันแสงแดดอย่างสม่ำเสมอ เป็นขั้นตอนสำคัญที่สุด เพื่อไม่ให้กระกลับมาเข้มขึ้นอีก ควรใช้ครีมกันแดด SPF50 ขึ้นไปทุกวัน แม้อยู่ในที่ร่ม
ในปัจจุบัน เทคโนโลยีเลเซอร์ที่อ่อนโยนต่อผิว เช่น SLT® Soft Lasing Technology กำลังได้รับความนิยมในวงการแพทย์ผิวหนัง เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดีในผู้มีผิวแพ้ง่าย หรือกังวลเรื่องการลอกผิวและรอยตกสะเก็ดหลังทำเลเซอร์แบบเดิม หากคุณต้องการคำแนะนำในการดูแลกระแดดอย่างเหมาะสมกับผิวตัวเอง การปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินความลึกและชนิดของกระอย่างละเอียดจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด
