เสริมคาง

เสริมคาง (Chin Augmentation) เสริมคางเพื่อให้ใบหน้าดูเรียว เล็กลง เสริมสร้างความมั่นใจให้กับใบหน้า ด้วยซิลิโคนแบบพิเศษ (Silimed)

ปัญหาคางสั้นแก้ไขไม่ยาก สามารถ เสริมคาง ให้รูปหน้าดูยาวขึ้นได้ แถมยังไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องของรอยแผลผ่าตัดกันด้วย เนื่องจากแพทย์สามารถ เสริม คาง แบบไร้แผลได้ วิธีการก็คือ เปิดแผลผ่าตัดภายในปาก บริเวณซอกเหงือกกับริมฝีปากล่าง แล้ววางแท่งซิลิโคนเข้าไป แค่นี้แผลก็จะถูกซ่อนไว้ในปาก ไม่ต้องโชว์หราให้ใครเห็น

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมคาง

  • หากมีโรคประจำตัวหรือมีประวัติแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
  • หากรับประทานยาแอสไพรินหรือยาละลายลิ่มเลือด ต้องงดยาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนผ่าตัด
  • งดสมุนไพร หรือวิตามินอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามิน E เช่น อีฟนิ่งพริมโรส อย่างน้อย 3-5 วัน เพราะอาจจะทำให้มีเลือดออกมากผิดปกติได้
  • งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัด 2 สัปดาห์
  • งดน้ำงดอาหารทุกชนิด ก่อนการผ่าตัดเป็นเวลา 6 – 8 ชั่วโมง

ขั้นตอนการเสริมคางด้วยแท่งซิลิโคน

แพทย์จะให้ยานอนหลับเพื่อลดความกังวล แล้วจึงค่อยฉีดยาชา ดังนั้นในระหว่างผ่าตัดจะไม่มีอาการเจ็บปวด จากนั้นแพทย์จะเปิดแผลภายในปาก บริเวณซอกเหงือกกับริมฝีปากล่างยาวประมาณ 2 เซนติเมตร หลังจากนั้นจะเลาะเข้าไปใต้กล้ามเนื้อ โดยเลาะติดกระดูกคางตามแนวขอบเขตที่กำหนดไว้ แล้วจึงวางแท่งซิลิโคนลงในตำแหน่งที่ต้องการ โดยซิลิโคนจะวางอยู่บนกระดูกคางเดิม ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมง หลังทำสามารถกลับบ้านได้ โดยไม่ต้องนอนค้างในโรงพยาบาล

ดูแลตนเองอย่างไรหลังเสริมคาง

  • ในช่วง 1 – 3 วันแรกให้ประคบความเย็น เพื่อลดอาการบวม หลังจากนั้นอาการบวมจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ โดยทั่วไป อาการบวมมักจะยุบลงและได้รูปร่างของคางใหม่เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1-3 เดือน
  • ในช่วง 1 สัปดาห์แรก ควรนอนยกศีรษะสูงอย่างน้อย 30 องศา
  • บางรายอาจมีรอยเขียวช้ำ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หลังจากการผ่าตัดประมาณ 1-2 สัปดาห์ แนะนำให้ประคบด้วยน้ำอุ่นบริเวณรอยเขียวช้ำ เพื่อให้รอยเขียวช้ำหายเร็วขึ้น
  • งดทานยาแอสไพรินหลังผ่าตัดต่ออีก 2 สัปดาห์ หรือตามแพทย์สั่ง
  • ควรรับประทานอาหารอ่อนและนิ่มที่ไม่ต้องเคี้ยวมาก เพื่อลดการกระทบกระเทือนของบาดแผล เนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณกรามทั้งสองข้างยังไม่มีแรงพอที่จะขบเคี้ยวของแข็งและเหนียว อาการเคี้ยวอาหารไม่ได้ หรือเคี้ยวลำบาก จะเป็นปกติประมาณ 1-3 เดือน
  • ควรงดสูบบุหรี่ประมาณ 1 สัปดาห์ และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และของหมักดองประมาณ 1 เดือน
  • ควรบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก หรือน้ำเกลือทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร เพื่อไม่ให้เศษอาหารไปเกาะติดที่บริเวณปากแผล สามารถแปรงฟันได้ แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้แปรงกระแทกบริเวณแผลผ่าตัด
  • ระมัดระวังการกระทบกระเทือนบริเวณคาง โดยเฉพาะในช่วงเวลา 3-4 สัปดาห์แรก ไม่ควรท้าวคาง ไม่ควรหัวเราะมากจนเกินไป และระมัดระวังไม่ให้เกิดแรงกระแทกมากระทบซิลิโคนมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ซิลิโคนที่ยังเกาะติดแน่นกับขอบกระดูกไม่ดีพอขยับเขยื้อนได้

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการผ่าตัดเสริมคาง

  • อาการชาบริเวณคาง ริมฝีปาก ฟันล่างด้านหน้า เนื่องจากเส้นประสาทถูกรบกวนจากการผ่าตัด แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะเกิดเพียงชั่วคราว อาการชาจะค่อย ๆดีขึ้นตามลำดับและมักจะฟื้นได้ในเวลาอันสั้น ประมาณ 1-3 เดือน
  • การเอียงบิดของแท่งคาง คล้ายกับกรณีของการเสริมจมูก คางก็สามารถเอียงได้เช่นเดียวกัน ซึ่งมักพบได้ช่วงหลังทำใหม่ๆ จนถึงประมาณ 1 เดือน เนื่องจากในตอนแรก คางจะวางตัวเฉยๆ ไม่มีตัวอะไรไปยึดติดกระดูก ซึ่งร่างกายจะยึดแท่งซิลิโคนได้ด้วยตัวมันเอง ในเวลาประมาณ 1 เดือนขึ้นไป หากไปกระแทกหรือกระทบอะไรแรง ๆ ก็อาจส่งผลให้คางเอียงได้เหมือนกัน การแก้ไขขั้นต้นแพทย์สามารถใช้มือดัดให้เข้าที่ได้ แต่ถ้าเอียงมากเกินไปจะต้องผ่าเข้าไปจัดให้ใหม่ ซึ่งคนที่เสริมคางไปแล้วถ้าไม่อยากต้องมาตามแก้ไขให้ยุ่งยาก ก็ควรระมัดระวังตนเองไม่ให้มีอะไรไปกระแทกที่คางแรง ๆ ปัญหานี้ก็จะไม่มีอะไรที่น่ากังวล

การจะมีใบหน้าที่สวยงามนั้น ทุกส่วนของใบหน้าต้องมีสัดส่วนที่เหมาะสม เมื่อคางเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้เกิดความสมดุลของใบหน้าได้ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ความนิยม เสริม คาง จะเพิ่มมากขึ้นและกระแสเป็นไปในทางบวกค่ะ

เสริมคาง ด้วยซิลิโคน ราคาเริ่มต้น 14,900 บาท

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ปรึกษาได้ทุกวัน 8:00 – 18:00 น.
โทร. 091-770-6640 หรือ 02-115-2111 ต่อ 1189